วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันที่ 8 และวันที่ 11 กพ 2559


         สมรรถนะทั้ง 7 ด้านแต่ล่ะช่วงวัย

การเคลื่อนไหวและการทรงตัว
3 ปี - วิ่งและหยุดเองได้
4 ปี - เดินต่อเท้าไปข้างหน้าโดยไม่วางแขน
5 ปี - เดินต่อเท้าไปข้างหลังโดยไม่กางแขน

การมีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนเด็ก
3 ปี - พูดคุยและเล่นกับเพื่อนเด็กด้วยกัน
4 ปี - ช่วยเหลือเพื่อน
5ปี - ชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันโดยกำหนดสถานที่

ความทรงจำ
3 ปี - ท่องคำคล้องจองสั้นๆได้
4 ปี - บอกชื่อวันในหนึ่งสัปดาห์
5 ปี - บอกหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านได้

การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
3 ปี -แก้ปัญหาชีวิตประจำวันได้
4 ปี -แก้ปัญหาโดยใช้อุปกรณ์ช่วย
5 ปี -แก้ปัญหาได้หลายวิธี

ความสำคัญ
ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กและครูปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจเด็กปฐมวัยมากขึ้น
สร้างความตระหนักในความสำคัญของพัฒนาการเด็กในช่วงปฐมวัย
ชี้แนะแนวทางในการพัฒนาเด็ก
ส่งเสริมวิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยมีเป้าหมายร่วมกันและประสานประโยชน์เพื่อเด็กได้ดียิ่งขึ้น

ข้อตกลงเบื้องต้น
เด็กปฐมวัยทุกคนต้องมีความแตกต่างระหว่างบุคคล พ่อแม่ ผู้ปกครอง  ผู้ดูแล ครู อาจารย์
ควรศึกษาพฤติกรรมบ่งชี้(สมรรถนะ) ด้วยความเข้าใจ และไม่ควรถือว่าพฤติกรรมบ่งชี้เหล่านี้เป็นแบบ
ประเมินเด็ก ถ้าพบว่าเด็กบางคนมีพัฒนาการที่ล่าช้าจากช่วงอายุก็ควรปรึกษาแพทย์ต่อไป

สมรรถนะ 7 ด้านประกอบด้วย
1. การเคลื่อนไหวและสุขภาพทางกาย
2. พัฒนาการด้านสังคม
3. พัฒนาการด้านอารมณ์
4. พัฒนาการด้านความคิดและสติปัญญา
5. พัฒนาการด้านภาษา
6. พัฒนาการด้านจริยธรรม
7. พัฒนาการด้านการสร้างสรรค์

สรุปจากงานวิจัย
จากสมรรถนะจำนวน 419 ข้อ  พบว่าเด็กทำได้จากระดับง่ายไปหายาก
สมรรถนะ  178 ข้อ อยู่ระดับง่าย
สมรรถนะ  52 ข้อ อยู่ระดับปานกลาง
สมรรถนะ  189 ข้อ อยู่ระดับยาก

ดังนั้นข้อค้นพบเหล่านี้เป็นประเด็นที่บ้านและโรงเรียนจะต้องร่วมมือกันพัฒนาและส่งเสริมเด็กของเรา
ต่อไป บนพื้นฐานของการจัดประสบการณ์ที่ถูกต้อง

แนะแนวหลักในการปฏิบัติต่อเด็กของผู้ดูแลเด็กครูและอาจารย์
1.รักเด็กเป็นที่ตั้ง
2.ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
3.เข้าใจกระบวนการและพัฒนาตามวัยของเด็กอย่างรอบด้าน
4.เข้าใจกระบวนการเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้
5.มีจินตนาการและค้นหาหรือสร้างสื่อเรียนรู้ที่ทำให้เด็กสนใจ สนุกอยากรู้เพิ่มเติม
6.สนับสนุนเด็กให้แสดงความคิดเห็น ให้เด็กคิด ให้เด็กมีส่วนร่วม
7.เป็นแบบอย่างที่ดี
8.ชี้ชวนเด็กให้รู้จักตนเอง
9.เข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างเด็ก
10.สังเกตเด็กและพฤติกรรมของเด็ก
11.สร้างเครือข่ายพ่แม่ผู้ปกครองในชุมชน
12.คำนึง ประโยชน์สูงสุด ที่จะตกอยู่กับเด็กเป็นสำคัญ


วันพฤหัสบดีงดการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ต้องไปแก้หลักสูตรใหม่



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น